หัวใจสำคัญที่ทำให้ทุกการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเต็มไปด้วยอรรถรส ได้กลิ่น รสชาติที่ดีของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั่นก็คือ คอยล์บุหรี่ไฟฟ้า เพราะเป็นจุดที่สร้างไอน้ำหรือควันขณะเราสูบบุหรี่ไฟฟ้านั่นเอง
โดยจะมีหน้าที่จะสร้างความร้อนผ่านขดลวด เมื่อกดปุ่มสูบหรือดูดขึ้นแบตเตอรี่ของตัวเครื่องบุหรี่ไฟฟ้าจะส่งกระแสไฟไปที่ขดลวดของคอยล์ เมื่อสำลีที่ชุ่มไปด้วยน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเจอกับขดลวดก็จะทำให้เกิดการระเหยและกลายเป็นไอน้ำหรือควันที่มีกลิ่นและรสชาติของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั้นๆ ขึ้นมา ผู้ใช้งานจึงสามารถได้รับควันและกลิ่นรสจากปฏิกิริยานี้
แต่อย่างไรก็ตามคอยล์เป็นอะไหล่ที่มักเสื่อมสภาพได้ง่าย โดยเมื่อผ่านการใช้งานไปสักระยะสำลีที่เป็นส่วนประกอบของคอยล์มักจะเสื่อมสภาพทั้งจากน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าหรือจากการสัมผัสความร้อนกับขดลวดนานๆ ทำให้รสชาติขณะสูบเปลี่ยนไปหรือได้กลิ่นไหม้ หรือที่เรียกกันว่าคอยล์ไหม้นั่นเอง
ยิ่งไปกว่านั้นหากมีการใช้งานเกิดขีดจำกัด ตัวขดลวดที่อยู่ภายในคอยล์อาจขาดเนื่องจากความร้อนที่มากเกินไปก็เป็นได้
ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าจะต้องคำนึงถึงและระมัดระวังนั่นก็คือการดูแลรักษาและเปลี่ยนคอยล์อย่างสม่ำเสมอ แล้วใช้ได้กี่วัน หากจะเปลี่ยนคอยล์สามารถทำอย่างไร แล้วมีปัจจัยใดที่ทำให้คอยล์เสื่อมสภาพหรือหมดอายุเร็วขึ้นหรือไม่เพื่อที่จะได้ทราบถึงการหลีกเลี่ยงปัจจัยนั้นๆ ให้คอยล์ของเราสามารถใช้งานได้นานขึ้น
สารบัญ
- คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าใช้ได้กี่วัน
- ปัจจัยที่ส่งผลให้คอยล์หมดอายุไวขึ้น
- คอยล์หมดอายุ รู้ได้อย่างไร?
- วิธีเปลี่ยนคอยล์ด้วยตนเอง
- วิธีถนอมอายุคอยล์ให้ใช้ได้นานขึ้น
- สรุป
คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าใช้ได้กี่วัน
ปกติแล้วอายุของคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าใช้ได้กี่วัน เป็นคำถามที่นักสูบบุหรี่ไฟฟ้ามือใหม่หรือแม้กระทั่งนักสูบหน้าเก่าๆ ก็อาจสงสัยไม่น้อย โดยเฉลี่ยแล้วจะสามารถใช้งานได้ประมาณ 3-5 วันเป็นอย่างน้อยสำหรับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าทั่วไป และสามารถใช้งานได้นานสุดถึง 1-2 อาทิตย์หากใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าคุณภาพสูง
ส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าอาจสังเกตได้ว่าเรามักจะต้องเปลี่ยนคอยล์ก่อนที่น้ำยาจะหมดเกือบทุกครั้ง แต่เพื่อสุขลักษณะที่ดีในการใช้งานนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำ
ทำไมเราถึงต้องรู้ว่าคอยล์ใช้ได้กี่วัน และต้องเปลี่ยนบ่อยๆ อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วบ้างว่าส่วนประกอบของคอยล์มีขดลวดและสำลี ซึ่งขดลวดมีหน้าที่รับกระแสไฟฟ้าจากตัวแบตเตอรี่ตัวเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า และสำลีมีหน้าที่อุ้มน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าไว้ เมื่อเครื่องมีการทำงาน สำลีที่ชุ่มไปด้วยน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าสัมผัสกับความร้อนของขดลวด จะทำให้เกิดการระเหยกลายเป็นไอน้ำหรือควันที่เต็มไปด้วยกลิ่นรสของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อใช้งานไปสักพัก สำลีที่เคยชุ่มไปด้วยน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าก็อาจชุ่มน้อยลงเพราะตัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าลดเหลือน้อย และเมื่อสัมผัสกับความร้อนของขดลวด จึงทำให้สำลีบางส่วนที่แห้งอาจเกิดการไหม้ขึ้นมา ทำให้ควันที่ออกมาไม่ใช่ไอน้ำจากน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า แต่เป็นควันที่เกิดจากสำลีไหม้นั่นเอง
เพราะหลายคนอาจมีความรู้สึกว่าต้องใช้งานให้คุ้มค่าที่สุด จึงพยายามฝืนใช้คอยล์ตัวเดิม และใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่คงเหลือในแทงค์ให้หมดก่อน แต่การกระทำนั้นเองที่ยิ่งเป็นการทำให้อายุการใช้งานลดลง เพราะน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าทำให้สำลีชุ่มได้ไม่มากพอ
ปัจจัยที่ส่งผลให้คอยล์หมดอายุไวขึ้น
เราพอจะทราบคร่าวๆ แล้วว่าคอยล์ใช้ได้กี่วัน ทีนี้เราควรจะมาทราบว่ามีปัจจัยใดที่มักจะส่งผลให้คอยล์เสื่อมสภาพหรือหมดอายุไวขึ้น ถ้าเราทราบปัจจัยเหล่านี้ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้อายุการใช้งานสั้นงได้
จำนวนครั้งที่สูบ
ยิ่งคอยล์ทำงานหนักมาก ก็จะยิ่งเสื่อมสภาพไวขึ้นเพราะสำลีต้องสัมผัสกับความร้อนของขดลวดบ่อยๆ ดังนั้นยิ่งสูบบุหรี่ไฟฟ้าถี่เท่าไหร่ ก็จะเกิดการทำงานหนักและหมดอายุการใช้งานไวขึ้น
ความนานในการสูบหนึ่งครั้ง (สูบลาก)
โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้า Pod system ที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อสูบลากยาว ยิ่งสูบลากยาวมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเร่งให้ขดลวดเกิดความร้อนมากขึ้นเท่านั้น ความร้อนที่มากเกินไปของขดลวดทำให้สำลีสัมผัสกับความร้อนมากเกินไป ทำให้สำลีไหม้ได้ง่าย
ระดับ PG/VG ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า
PG ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าคือ Propylene Glycol หรือ โพรไพลีนไกลคอล ซึ่งเป็นส่วนประกอบในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าทำหน้าที่กักเก็บรสชาติของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ส่วน VG ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าคือ Vegetable Glycerin หรือกลีเซอรีนที่ได้จากพืช ซึ่งทำหน้าที่ในการให้ความหวานและช่วยสร้างไอน้ำของบุหรี่ไฟฟ้า และ VG ยังมีความข้นเหนียวกว่า PG ระดับหนึ่ง
แล้วทำไมระดับหรือสัดส่วนของ PG:VG ถึงมีผลต่อคอยล์? เพราะคุณสมบัติความข้นเหนียวและการสร้างควันของ PG/VG นั้นมีผลต่ออายุการใช้งานของคอยล์ หากน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั้นมีอัตราส่วนของ VG ที่สูงก็จะทำให้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีความข้นหนืดมาก และยากต่อการสร้างไอน้ำ ทำให้ขดลวดต้องสร้างความร้อนสูงๆ จึงสามารถทำให้ระเหยกลายเป็นไอน้ำได้ และนั่นเป็นการเร่งให้สำลีไหม้ง่ายขึ้นนั่นเอง
รสของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า
สำหรับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีรสชาติหวานมากๆ หมายความว่ามีน้ำตาลเยอะ ซึ่งเมื่อน้ำตาลสัมผัสกับความร้อนจะทำให้เกิดการไหม้ได้ง่าย ดังนั้นยิ่งน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีรสหวานมากเท่าไหร่ คอยล์ก็ไหม้เร็วขึ้นเท่านั้น
คอยล์หมดอายุ รู้ได้อย่างไร?
สังเกตได้ง่ายๆ ว่าเมื่อไหร่ที่คอยล์หมดอายุ ดังนี้
- ควันน้อยลง กลิ่นและรสชาติที่ได้จางลงกว่าเดิม
หากคุณใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าไปสักพักแล้วสังเกตได้ว่าควันที่ได้จากการสูบน้อยลง กลิ่นและรสชาติที่ได้น้อยลงไม่เหมือนตอนใช้งานแรก ๆ นั่นแสดงว่าสำลีที่ชุบน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าอยู่มันน้อยลง จึงเหมือนกับการสูบเปล่าๆ โดยไม่มีน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั่นเอง
- มีกลิ่นไหม้
หากคุณพบปัญหาในข้อแรกแล้วยังฝืนใช้งานคอยล์ตัวเดิมต่อไป ปัญหาต่อมาที่จะเจอคือกลิ่นไหม้ เพราะเมื่อสำลีเสื่อมสภาพ สำลีแห้งแล้วไปสัมผัสกับขดลวดที่ร้อนจึงทำให้เกิดการไหม้ของสำลีขึ้นนั่นเอง
การที่คุณได้กลิ่นไหม้ นั่นแสดงว่าคอยไหม้และหมดอายุการใช้งานเป็นที่เรียบร้อยและควรเปลี่ยนใหม่ทันที เพราะหากคุณยังใช้งานต่อไปอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
- สีของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าในแทงค์เข้มหรือดำ
ถ้าคุณเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแล้วพบว่าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่เพิ่งเติมไปใหม่ๆ เกิดเปลี่ยนสีเข้มหรือดำเร็วมากๆ แสดงว่าคอยล์ไหม้และหมดอายุการใช้งานแล้ว ให้เปลี่ยนใหม่ และก่อนจะนำคอยล์อันใหม่มาเปลี่ยนควรจะล้าง ทำความสะอาดแทงค์น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเสียก่อนเพื่อให้สามารถยืดอายุการใช้งานได้มากขึ้น
วิธีเปลี่ยนคอยล์ด้วยตนเอง
วิธีเปลี่ยนคอยล์มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน หากคุณเป็นมือใหม่ก็สามารถดูวิธีเปลี่ยนได้ตามนี้
ถอดแทงค์น้ำยาออกมาจากตัวเครื่อง
ก่อนอื่นให้คุณถอดแทงค์น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแยกออกมาจากตัวเครื่องเสียก่อน ซึ่งแทงค์น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจะมีคอยล์อยู่ด้านใน ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่เราต้องการเปลี่ยน
ถอดคอยล์ออกจากแทงค์น้ำยาและล้างแทงค์น้ำยาให้สะอาด
เมื่อแยกส่วนแทงค์น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและตัวเครื่องเป็นที่เรียบร้อย ให้คุณถอดคอยล์ตัวเก่าที่อยู่ในแทงค์ออกมาก่อน และก่อนที่จะเปลี่ยนคอยล์ตัวใหม่ให้ล้างทำความสะอาดแทงค์และทิ้งไว้ให้แห้งก่อนทุกครั้ง เพราะจะช่วยให้คอยล์ตัวใหม่มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น
เปลี่ยนคอยล์
เมื่อล้างแทงค์น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจนสะอาดแล้ว ให้นำตัวใหม่ใส่เข้าไปในแทงค์บุหรี่ไฟฟ้าได้เลย
เติมน้ำยา
หลังจากใส่คอยล์ตัวใหม่เข้ากับแทงค์เรียบร้อย ให้ทำการเติมน้ำยาเข้าไปในแทงค์น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าไปประมาณ 80-90% ของหัวแทงค์ และรอให้สำลีดูดซับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าให้ทั่วก่อนประมาณ 5 นาทีแล้วจึงค่อยนำมาใช้งานตามปกติ
วิธีถนอมอายุคอยล์ให้ใช้ได้นานขึ้น
เพื่อให้การใช้งานคอยล์สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น เราขอแนะนำวิธีถนอมให้ใช้งานได้นานขึ้น ดังนี้
- ก่อนจะเปลี่ยนคอยล์ตัวใหม่ ให้ทำความสะอาดแทงค์น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจนสะอาดก่อนทุกครั้ง
- หลังเปลี่ยนยังไม่ควรใช้งานทันที เมื่อเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าไปแล้วควรรอให้สำลีดูดซับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจนทั่วก่อน เพราะหากใช้ทันทีโดยที่สำลียังแห้งอยู่จะทำให้สำลีไหม้ เกิดคอยไหม้ขึ้นได้
- ควรใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าคุณภาพดี เพราะน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีส่วนที่จะสามารถทำให้คอยล์มีอายุการใช้งานสั้นหรือยาวขึ้นได้
- ควรเลือกรสชาติน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่หวานเกินไป เพราะความหวานจะทำให้คอยล์ไหม้เร็วขึ้น
- ไม่ควรใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าถี่เกินไป เพราะจะทำให้คอยล์ทำงานหนัก
- ไม่ควรสูบแบบลากยาว เพราะการสูบแบบลากยาวจะทำให้ขดลวดร้อนเกินไปและไปทำให้สำลีไหม้ได้ง่ายขึ้น
สรุป
สำหรับนักสูบบุหรี่ไฟฟ้ามือใหม่อาจต้องเรียนรู้เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจสงสัยว่าคอยล์ใช้ได้กี่วัน ในความจริงแล้วคอยล์เป็นอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนเรื่อยๆ โดยปกติแล้วจะสามารถใช้งานได้ประมาณ 3-5 วัน แต่หากใช้งานอย่างถนอมและใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าคุณภาพดีก็สามารถยืดอายุคอยล์ได้นานถึง 1-2 สัปดาห์เลยทีเดียว