ในท้องตลาดของบุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบัน ยิ่งบุหรี่ไฟฟ้าประเภทพอตไฟฟ้า ก็มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายแบรนด์ แน่นอนว่าทุกแบรนด์ต่างงัดเอาลูกเล่นของตัวเองออกมาแข่งขันอย่างเต็มที่ Wizvapor MINI BEEPER เป็นพอตไฟฟ้าอีกตัวที่โดดเด่น สะดุดตามากกว่าชาวบ้าน ด้วยดีไซน์ที่ย้อนวัยสิงห์นักสูบ พร้อมกับลูกเล่นที่สะดุดตา น่ารัก น่าใช้ แต่ในการรีวิวตัวนี้ ต้องมาดูว่าจะใช้ดีพอ ๆ กันกับหน้าตาหรือไม่
MINI BEEPER มีจุดเด่นด้านโหมดการใช้งานที่หลากหลาย รูปทรงที่เหมือนทำมาเล่นๆ แต่กลับเข้ากันกับสริศาสตร์ได้ดี แตกต่างจากบุหรี่ไฟฟ้าในท้องตลาด
สารบัญบทความ
Spec ของ MINI BEEPER
Wizvapor MINI BEEPER เป็นพอตไฟฟ้า Pod Open System หรือพอตระบบเปิด ที่มีลูกเล่น หรือฟีเจอร์ที่มากมาย ทั้งในแง่ของการใช้งานเพื่อการสูบเหมือนบุหรี่ไฟฟ้าทั่วไป แต่ฟีเจอร์ด้านอื่น ๆ นอกเหนือจากการใช้สูบก็มี ไม่ว่าจะเป็น MINI GAME พร้อมโหมดการสูบที่มีให้ปรับมากมาย ตัวเครื่องมีสี่ปุ่มในงานใช้งาน ถือเป็นมาตรฐานการใช้งานบุหรี่ไฟฟ้า ที่ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิดอีกด้วย
เบื้องต้นตัวเครื่องจะมีขนาดพอดีมือ คล้ายกับเกมกด แต่กลับมีน้ำหนักเบาเพียง 66 กรัมเท่านั้น และด้วยความที่มีโหมดให้เลือกมากมาย ดังนั้นการตอบสนองของตัวเครื่องต้องแรง รวดเร็ว ตัวแบรนด์ Wizvapor ก็ออกแบบมาได้อย่างไม่ผิดหวัง อีกทั้งยังมากับกำลังไฟสูงสุดที่ 24W เหมาะกับฟิลการสูบแบบ MTL ที่คนส่วนใหญ่ชื่นชอบ
คุณสมบัติของบุหรี่ไฟฟ้า
- แบรนด์ : Wizvapor
- ขนาดตัวเครื่องหลัก : 47*74*20 mm
- เกรดวัสดุ : PC+
- น้ำหนักเครื่อง : 66g
- ความจุแบตเตอรี่ : 1200 mAh Built-in Battery
- ความจุน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า : 3.5ml
- กำลังไฟ : 5-24W
- คอยล์ : 0.8Ω/1.2Ω
- เกรดวัสดุพอต : PCTG
- การเชื่อมต่อพอตกับเครื่อง : แม่เหล็ก
- หน้าจอแสดงผล : 1.7” OLED Screen
- ชาร์จเร็ว : USB Type-C Charging Current DC 5V/2A
- เติมน้ำยา : เติมจากด้านข้าง
- ระบบรูลม : รูลมล่าง
จุดเด่นของ MINI BEEPER
MINI BEEPER มีความเป็นอุปกรณ์ย้อนยุค มีรูปแบบคล้ายเกมพกพายุคเก่า หรือเพจเจอร์อุปกรณ์สื่อสาร ที่ไม่ใช่แค่รูปร่างที่ทำให้ตัว MINI BEEPER เป็นอุปกรณ์เรโทรย้อนยุค แต่มีลูกเล่นภายในมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบบันทึก, มิ Cyber Fortune, หน้าจอแสดงผลที่ให้เป็น Pixel Art อ่านง่าย และน่าหลงไหล
จอแสดงผล OLED สีสวย ใช้งานสะดวก
ด้วยความที่พยายามทำให้ดูเป็นเครื่องเกมกด หน้าจอของตัวเครื่องมีขนาดใหญ่กว่าบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ซึ่งหน้าจอแสดงผลเป็นแบบ OLED ขนาด 1.7 นิ้ว ตัดปัญหาในการดูสถานะของตัวเครื่องไปได้เลย เพราะความใหญ่ของหน้าจอทำให้เราสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับ แรงไฟ, ค่าโวลต์, ค่าโอห์มได้อย่างเต็มตา สอดรับกับโหมดการใช้งานที่มีมากมายในตัวเครื่อง
ระบบสูบหลายรูปแบบ มีให้ปรับตามใจชอบ
ฟังก์ชันของ MINI BEEPER ไม่มีได้มาเล่น ๆ กับระบบปรับโหมดการสูบที่ตัวเครื่องมีให้เลือกอย่าง Texture Option ที่ให้ฟิลการสูบที่แตกต่างกัน โดยแบ่งออกโหมด
- Violence (Fast) ที่เป็นโหมดสูบธรรมดา ปรับการจ่ายความร้อนให้แรง ฟิลกระแทก บูสนิโคติน ตามกำลังไฟที่เราได้ตั้งค่าเอาไว้
- Normal (Mid) เป็นโหมดสูบธรรมดา ทำความร้อนปกติ ตามกำลังไฟที่เราตั้งค่าเอาไว้
- Soft (Slow) เป็นโหมดสูบธรรมดา ปรับกระบวนทำความร้อนช้าลง ตามกำลังไฟที่เราตั้งค่าเอาไว้
ซึ่ง 3 โหมดแรกก็ให้ฟิลสูบที่แตกต่างแล้ว โดยเฉพาะ Soft ที่ให้ฟิลการสูบแบบ Softness นุ่ม ไม่กระแทก ซึ่งโหมด Fast ก็จะให้ฟิลตรงกันข้ามนั่นเอง และนอกจากนี้ใครที่ชอบฟิลแบบ กลิ่นชัด หรือเพิ่มรสชาติ ก็ยังมีโหมดใน Texture Option เพิ่มเติมอีกดังนี้
- Juicy Taste ปรับการจ่ายความร้อน ให้ได้ระดับความฉ่ำ กับน้ำยาที่กลิ่นจำพวกผลไม้
- Dessert/Nuts ปรับการจ่ายความร้อน ให้ดึง Texture ความหวานและรสชาติของน้ำยา
- Tea/Milk เพิ่มความหอม ยกระดับกลิ่นในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า
ดีไซน์สวยงาม สดใส ย้อนวัยยุค 90
โดดเด่นในด้านดีไซน์อย่างเห็นได้ชัด ที่ตัวเครื่องมีรูปร่างเป็นแนวนอน แต่การใช้งานจริง ก็เหมือนกับบุหรี่ไฟฟ้าทั่วไป ที่เราจับสูบเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมแนวตั้ง ทำให้กันจับดูแน่นมือ ไม่ขัดฟิลอย่างที่คิด อีกทั้งความย้อนยุคของตัวบุหรี่ไฟฟ้า MINI BEEPER ยังทำให้เราเห็นสีแนว Candy มีทั้งดีไซน์แบบเคลือบด้าน และเงา สามารถถอดโครงหน้าเปลี่ยนได้ การสลับสีตัดสีแนวของเล่น ถือว่าทำให้โดดเด่นน่ารักขึ้น
นอกจากนี้ยังมีตัวหนีบใส่ไว้สำหรับพกพา เหน็บไว้กับกระเป๋า หรือส่วนต่าง ๆ ได้ เน้นโชว์ความเป็นเรโทรที่โดดเด่น ดีไซน์ที่ใครเห็นก็ต้องมอง พร้อมกับ Cyber Fortune ที่เป็นลูกเล่นเกมเล็กให้ทอยลูกเต๋า และดูคำทำนาย แต่น่าเสียดายที่ระบบส่วนนี้ไม่มีภาษาอังกฤษรองรับ
แบตเตอรี่ความจุเยอะ ชาร์จไฟได้ไว สะดวก
พบว่าขนาดแบตเตอรี่ของตัวเครื่อง มีความจุที่ 1200 mAh ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าน้อย แต่หลังจากใช้งานแล้ว พบว่าปริมาณแบตเตอรี่ที่ให้มา สามารถใช้งานได้ทั้งวัน ไม่ต้องชาร์จเพิ่ม แต่หากใช้งานถี่มาก ก็ไม่ต้องกังวล มีระบบ Fast Charging รองรับ USB Type C อยู่ในตัวอยู่แล้ว
ระบบจดจำรสชาติและตั้งค่าเวลาใช้งาน
มีระบบให้เราบันทึก Flavor หรือกลิ่นได้ โดยเราสามารถตั้งชื่อและบันทึกไว้ในตัวเครื่อง เรียกระบบนี้ว่า Flavor Clips รวมไปถึงโหมดการตั้งเวลา หรือตั้งปุ่มปิดเครื่องอย่าง Time Setting ที่มีไว้สำหรับผู้ที่ต้องการสูบในเวลาที่กำหนด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ อีกทั้งยังมีปุ่ม Reset ไว้รองรับระบบตัวเครื่องที่มีปรับแต่งได้มาก จนบางครั้งอาจจะสะเปะสะปะจนต้องปรับเป็นค่าที่มาจากโรงงาน
สิ่งที่ให้มาในกล่อง
- Wizvapor MINI BEEPER Pod Kit
- สายชาร์จ Type-C
- ตัวหนีบด้านหลัง
- หัวพอตความจุ 3.5 ml. 0.8Ω
- หัวพอตความจุ 3.5 ml. 1.2Ω
- สายคล้องตัวพอต
- สติกเกอร์
- คู่มือการใช้
สรุป
พอตไฟฟ้ากับการรีวิว MINI BEEPER ถือว่าเป็นเครื่องที่สุดจัดในด้านแฟชั่น ดีไซน์ที่ทำให้หวนรำลึกถึงยุค 90 แต่ไม่ใช่แค่หน้าตา ตัวแสดงผลก็ให้ฟิลเดียวกัน ให้ความทันสมัยเอาใจนักสูบยุคใหม่ ทั้งฟิลการสูบกับโหมดปรับการจ่ายความร้อนแบบหลายระดับ ให้กลิ่น และรสชาติที่ชัดเจน